เล่นหุ้นตัวไหนดีในปี 2022 แนะนำหุ้นเด่นน่าลงทุน
15379 views | 17/03/2022
Copy link to clipboard
Koii Nopnok
Content Creator

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเล่นหุ้น และยังลังเลไม่รู้ว่าจะซื้อหุ้นตัวไหนดี บทความนี้จะมาแนะนำหุ้นเด่นน่าลงทุนในปี 2022 พร้อมกับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องคอยติดตามในปีนี้ 



บล.กสิกรไทย ได้คาดการณ์ไว้ว่าในปี 2565 เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในระดับ 3-4% จากธุรกิจท่องเที่ยวที่คาดว่าจะกลับมาเติบโตจากการเปิดประเทศ และภาคส่งออกที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งยังคงมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยมีเป้าหมายปี 2565 ที่ 1,680 จุด อิงจากกำไรต่อหุ้นที่ 95.53 บาท และ EYG ที่ 3.17% (-0.75SD) และคงความเห็นด้านบวกต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ทั้งนี้ได้คาดว่า GDP ปี 2565 ของไทยจะขยายตัวขึ้น 3.7% จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ดีขึ้น การเปิดประเทศ มาตรการกระตุ้นทางการคลัง และการส่งออกที่แข็งแกร่ง


5 ธีมหุ้นที่น่าลงทุนในปี 2022

หุ้นเด่นที่ บล.กสิกรไทยแนะนำว่าน่าลงทุน ได้แก่


1. กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง (CPALL, OSP, LH และ STEC)

โดยได้คาดการณ์ไว้ว่ารัฐบาลจะอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและโครงการโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนในประเทศก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งอาจช่วยให้ GDP ปี 2565 เติบโตประมาณ 4%


2. Pent-up demand ของการเดินทาง (SPRC และ AWC)

ในปี 2565 การเดินทางระหว่างประเทศอาจเพิ่มขึ้น 2 ถึง 3 เท่าจากระดับปกติ เพราะ pent-up demand ซึ่งน่าจะช่วยกระตุ้นค่าการกลั่น (GRM) ของ SPRC และอัตราการเช่าพื้นที่ของ AWC


3. หุ้นกลุ่ม Anti Commodities plays (PTG, GFPT, EPG และ BGRIM)

หากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลงจากการผ่อนคลายข้อจำกัดด้านอุปทานในปี 2565 ก็อาจส่งผลให้หุ้นกลุ่มนี้ดีดตัวขึ้น จึงถือเป็นโอกาสในการเทรดดิ้งหุ้นกลุ่มนี้


4. อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น (BLA และ SCB)

เนื่องจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นหลังวิกฤติโควิด-19 จึงส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตของสินเชื่อธนาคารและส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) และเพิ่มผลตอบเทนจากการลงทุน (ROI) ของบริษัทประกันภัย


5. ผู้ได้ประโยชน์หลักจากกระแสความนิยมของรถยนต์ (KCE)

จากยอดขายรถยนต์ EV และ ICE ที่เพิ่มขึ้นก็จะผลักดันการเติบโตของยอดขาย PCB



ปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่ต้องจับตามอง

บล.กสิกรไทย มองว่าภาวะเงินเฟ้อเป็นหนึ่งในความเสี่ยงหลักที่จะมีผลกระทบมากที่สุดในปี 2565 เพราะตัวเลขคาดการณ์บ่งชี้ถึงภาวะเงินเฟ้อที่มีความหนืดมากขึ้น เมื่อเทียบกับแนวโน้มระยะสั้นของ FED ส่วนความเสี่ยงอื่น ๆ ได้แก่ ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ และภาวะ hard-landing ของจีน รวมถึงการหาเสียงเลือกตั้งที่อาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของภาคส่วนที่อ่อนไหวต่อการเมือง เช่น นิคมอุตสาหกรรม EV PPP และโครงการขนาดใหญ่



ที่มาข้อมูล

  • https://www.kasikornsecurities.com/en/research/market-summary/AVOMzO
  • https://www.kasikornsecurities.com/en/research/market-summary/YD5iNW
  • https://www.kasikornsecurities.com/en/research/market-summary/YxjEX6
  • https://www.wealthythai.com/en/updates/stock/stock-of-the-day/6593